ผู้ค้าที่ได้รับคำขอจากลูกค้าจากช่องทางอื่นๆ (เช่น ผ่านทางโทรศัพท์ เป็นต้น) คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเองได้ง่ายๆ โดยใช้ฟีเจอร์สั่งซื้อด้วยตนเองที่เครื่องมือของ SHOPLINE แถบโซเชี่ยลคอมเมิร์ซ
ฟีเจอร์นี้ คุณสามารถส่งออกลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อสำหรับการชำระเงินผ่านช่องทาง WhatsApp หรืออีเมล หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ผู้ค้าสามารถคัดลอกและวางลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อเพื่อส่งไปยังช่องทางที่เลือกไว้
ที่หน้าผู้ดูแลระบบ SHOPLINE > [โซเชียลคอมเมิร์ซ] ยังมีฟีเจอร์โซเชียลคอมเมิร์ซอื่นๆอีก เช่น SHOPLINE Live, ศูนย์ข้อความ และศูนย์แชทบอท สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ SHOPLINE โซเชียลคอมเมิร์ซ สามารถดูรายละเอียดได้ที่: โซเชียลคอมเมิร์ซ
บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้งานดังนี้:
*โปรดทราบ:
คุณจะไม่สามารถดำเนินการสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเองได้หาก:
- ที่อยู่ลูกค้าไม่รองรับกับตัวเลือกการจัดส่งที่เลือกไว้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกการจัดส่งที่ใช้ได้สำหรับประเทศ/ภูมิภาค กรุณาตรวจสอบได้ที่ตารางนี้
- สินค้าที่ได้เลือกไว้ขายหมดแล้ว
- กรอกข้อมูลที่จำเป็นไม่สมบูรณ์
- จำนวนส่วนลดของสินค้าที่เลือกไว้เกินยอดรวมราคาสินค้า
- หากคุณต้องการส่งลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อผ่าน WhatsApp และคุณกำลังใช้งานบนอุปกรณ์ iOS คุณจะต้องเพิ่มลูกค้าเป็นผู้ติดต่อใน WhatsApp ก่อน เพื่อที่จะสามารถสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเองได้สำเร็จ
1. วิธีการสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเอง
ที่แผงควบคุม SHOPLINE ไปที่เครื่องมือ [โซเชี่ยลคอมเมิร์ซ] > [สั่งซื้อด้วยตนเอง]
ขั้นตอนที่ 1: ใส่รายละเอียดข้อมูลของลูกค้า
A. สำหรับลูกค้าใหม่ กรอกเบอร์โทรศัพท์ลูกค้า ชื่อ และอีเมล
*หมายเหตุ: หากคุณได้มีการเปิดใช้งาน “ส่งข้อความ SMS” ที่ [การแจ้งเตือนที่กำหนดเอง] > [การแจ้งเตือนการตั้งค่าบัญชีสมาชิก] ลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือน SMS เมื่อคุณสร้างสมาชิกใหม่ในการสั่งซื้อด้วยตนเอง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในบทความนี้
B. สำหรับลูกค้าเดิม คุณสามารถค้นหาพวกเขาได้จากเบอร์โทรศัพท์และเลือกจากเมนูตัวเลือก
C. หากอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ที่มีการใช้ไปแล้วถูกกรอกและคุณไม่ได้มีการเลือกลูกค้าเดิมที่เกี่ยวข้อง คุณจะถูกถามให้กรอกเบอร์โทรศัพท์/ อีเมลใหม่ หรือรวมข้อมูลที่กรอกเข้ากับโปรไฟล์ลูกค้าเดิม
*โปรดทราบ:
- โปรดระวังลักษณะตัวอักษร (ตัวพิมพ์เล็ก/ใหญ่) เมื่อกรอกข้อมูลลูกค้า
- ใส่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าใหม่
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มสินค้าลงตะกร้าสินค้า
A. เพิ่มสินค้าที่มีในร้าน
คลิกเลือกสินค้าเพื่อดูสินค้าทั้งหมดที่มีในร้าน จากนั้นคลิกที่ไอคอน "ตะกร้าสินค้า" เพื่อเพิ่มสินค้านั้นลงไปในตะกร้า
*โปรดทราบ:
- ใส่ชื่อสินค้าที่ช่องการค้นหาเพื่อค้นหาสินค้าได้รวดเร็วขึ้น
- ถ้าหากสินค้านั้นมีตัวเลือกหลายรายการ คุณสามารถคลิกที่เมนูตัวเลือกเพื่อดูและเลือกตัวเลือกที่ต้องการ
นอกจากสินค้าแล้ว คุณสามารถเพิ่มของขวัญไปยังตะกร้าสินค้าโดยการใช้แท็บเลือกรับของขวัญ
B. สร้างสินค้าด้วยตนเอง
คลิกไปที่กำหนดผลิตภัณฑ์เอง และระบุชื่อสินค้า, รูปภาพ, ราคา, และปริมาณ คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงสินค้านี้บนหน้าร้านค้าออนไลน์หรือไม่ เมื่อกรอกครอบถ้วนแล้ว คลิกที่ปุ่มเพิ่มลงตะกร้า (Add to Cart)
[เร็วๆ นี้] การจัดเรียงสินค้าและ SKU
เมื่อเพิ่มสินค้าเรียบร้อยแล้ว การจัดเรียงสินค้าและ SKU จะปรากฏขึ้น หากคุณได้เพิ่มของขวัญ การเรียงลำดับสินค้าและของขวัญจะแสดงแยกกัน
*หมายเหตุ: หากคุณต้องการแสดงข้อมูลเหล่านี้ โปรดติดต่อทีมงานดูแลร้านค้าออนไลน์ของเรา
ขั้นตอนที่ 3: กรอกรายละเอียดที่อยู่จัดส่งและการชำระเงิน
เลือกตัวเลือกชำระเงินจากเมนูตัวเลือก ที่ช่อง "ข้อมูลผู้รับ" เลือกที่อยู่สำหรับลูกค้าที่เพิ่งได้ลงทะเบียนหรือกรอกที่อยู่ใหม่
*โปรดทราบ: ที่อยู่ของลูกค้าอาจไม่ถูกต้องเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบของที่อยู่ หากข้อความผิดพลาดดังกล่าวปรากฏขึ้น โปรดอัปเดตที่อยู่ของลูกค้าโดยใช้รูปแบบที่ถูกต้อง
วิธีการจัดส่งแบบรับด้วยตนเองที่ร้านค้า
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับสินค้าที่หน้าร้าน กรุณาอ้างอิงจากบทความการตั้งค่าเมนูรับสินค้าที่ร้านค้า และ ซื้อออนไลน์และรับสินค้าที่ร้านค้า
*หมายเหตุ:
- โปรดกรอกข้อมูลผู้รับหลังจากเลือกรับสินค้าที่ร้านค้าแล้ว ข้อมูลนี้จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและจะไม่ถูกบันทึกในระบบ
- เมื่อใช้วิธีการจัดส่ง "ซื้อออนไลน์และรับสินค้าที่ร้านค้า" (กับร้านค้าปลีกหรือคลังสินค้าที่กำหนดไว้) หากร้านค้าปลีกดังกล่าวไม่มีสินค้าคงคลัง ระบบจะเลือกร้านค้าอื่นๆให้ทันที
- ระบบจะตรวจจับคลังสินค้าของร้านค้าออนไลน์ให้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณเลือกสินค้า ดังนั้นเมื่อไม่มีสินค้าในคลังสินค้าของร้านค้าออนไลน์ คุณจะไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้แม้ว่าจะมีสินค้าอยู่ในร้านค้าปลีก
- หากปริมาณของสินค้าที่เพิ่มเข้ามามากกว่า "จำนวนที่จำกัดสำหรับคำสั่งซื้อ" คุณจะไม่สามารถสร้างคำสั่งซื้อได้
โปรดตรวจสอบตารางด้านล่างนี้สำหรับตัวเลือกชำระเงินและการจัดส่งที่ให้บริการในภูมิภาคของคุณ:
*หมายเหตุ:
- หากคุณใช้ [การโอนเงินผ่านธนาคาร] เป็นตัวเลือกการชำระเงิน เลือกแสดง ที่ใต้ช่องข้อความการโอนเงินผ่านธนาคาร คลิกไอคอนรูปดินสอเพื่อแก้ไข จากนั้นกรอกประเภทของข้อมูลที่ต้องการเพื่อเสร็จสิ้นการโอนเงิน (เช่น ชื่อธนาคาร, ชื่อผู้รับ, หมายเลขบัญชี เป็นต้น) และ/ หรืออัปโหลดไฟล์รูปภาพที่มีรายละเอียดการโอนเงิน (ในรูปแบบของ QR โค้ดหรืออื่นๆ)
*โปรดทราบ: สามารถอัปโหลดไฟล์รูปภาพได้เพียงไฟล์เดียวเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 4
ผู้ค้าสามารถเพิ่มแท็กคำสั่งซื้อด้วยตนเองโดยกรอกข้อมูลเหล่านั้นในช่อง แท็กคำสั่งซื้อ
ผู้ค้าสามารถคลิก [เลือกแท็ก] เพื่อเลือก ฉลาก/แท็ก จากรายการของแท็กที่ถูกใช้ก่อนหน้า
*โปรดทราบ:
- ร้านค้าสามารถเพิ่มแท็กได้สูงสุด 10 แท็กต่อหนึ่งคำสั่งซื้อ
- แท็กคำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะปรากฏในส่วนของ “แท็กคำสั่งซื้อ” ที่หน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อในหน้าผู้ดูแลระบบของ SHOPLINE
ขั้นตอนที่ 5
ผู้ค้าสามารถแนบหมายเหตุคำสั่งซื้อโดยการกรอกที่ช่อง “หมายเหตุคำสั่งซื้อ” ได้
*โปรดทราบ:
- ลูกค้าจะสามารถเห็นหมายเหตุที่ใส่ในช่องนี้
- ช่องหมายเหตุจำกัดจำนวนตัวอักษรสูงสุดที่ 200 ตัวอักษร (รวมถึงการเว้นวรรค)
ขั้นตอนที่ 6
A. การใช้ส่วนลด
ระบบจะใช้ส่วนลดโปรโมชันโดยอัตโนมัติ (เช่น โปรโมชันราคาแบบแพ็ครวม, ราคาแบบแพ็กรวมกลุ่ม หรือซื้อ X รับ Y) กับคำสั่งซื้อที่ตรงตามเงื่อนไขโปรโมชันที่กำหนดโดยร้านค้า ผู้ค้าสามารถช่วยลูกค้าเพิ่มสินค้าที่ตรงกับเงื่อนไขโปรโมชันได้เช่นกัน
ที่ส่วน "เพิ่มสินค้า" จะแสดงโปรโมชันที่นำมาใช้
B. ใช้เครดิตร้านค้า
หากร้านค้าเปิดใช้งาน "การตั้งค่าเครดิตร้านค้าออนไลน์" และลูกค้ามียอดเครดิตร้านค้าที่สามารถใช้ได้ ช่อง "ใช้เครดิตร้านค้า" จะปรากฏขึ้นมาภายใต้ส่วนสรุปคำสั่งซื้อ
ระบบจะดำเนินการตาม "เงื่อนไขการใช้เครดิต" ที่กำหนดในหน้าผู้ดูแลระบบ > [การบริหารจัดการลูกค้า] > [เครดิตร้านค้า]
- เงื่อนไขการใช้เครดิต: หากร้านค้ากำหนดเงื่อนไขยอดคำสั่งซื้อมากกว่า 999 บาท ข้อความแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้นว่าคำสั่งซื้อนั้นน้อยกว่ายอดที่กำหนด
- จำนวนเครดิตสูงสุดที่ใช้ได้: หากจำนวนสูงสุดของเครดิตที่สามารถใช้ได้ถูกกำหนดไว้ที่ 15 บาท จะมีข้อความปรากฏขึ้นว่ามีการกรอกจำนวนเครดิตเกินยอดสูงสุดที่กำหนด
- อนุญาตให้ลูกค้าสามารถกำหนดยอดเครดิตที่จะนำมาใช้ได้: จะสามารถใช้ได้หากร้านค้ามีการเปิดใช้งานการตั้งค่า
C. รายละเอียดภาษี
หากร้านค้าเปิดใช้งาน "ทุกร้านค้ามีการจัดเก็บภาษี" หรือบางสินค้ามีการกำหนดภาษีการขาย รายละเอียดภาษีและวิธีการคำนวณจะแสดงที่ส่วนรายละเอียดยอดคำสั่งซื้อ
หากร้านค้าเปิดการใช้งาน "ทุกรายการสินค้ารวมภาษี" ภาษีที่ถูกรวมอยู่ในยอดการชำระเงินจะแสดงขึ้นด้วย
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งค่าภาษี กรุณาอ้างอิงได้ที่บทความ:
D. เพิ่มส่วนลด
คุณสามารถคลิกเพิ่มส่วนลดและใส่จำนวนส่วนลดที่กำหนดเอง ผู้ค้าสามารถเปลี่ยนชื่อของส่วนลดที่กำหนดเองได้
คลิกที่ปุ่ม เพิ่มส่วนลด อีกครั้งเพื่อเพิ่มชุดส่วนลดที่กำหนดเองอื่นๆ
ปัจจุบันระบบรองรับส่วนลดที่กำหนดเองได้สูงสุดถึง 5 ชุดของส่วนลดที่กำหนดเอง เมื่อส่วนลดนั้นเกินจำนวนที่จำกัด ส่วนลดที่ถูกเพิ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเทาและหยุดฟังก์ชันนั้น
*โปรดทราบ: หากส่วน “ส่วนลดกำหนดเอง” ไม่ปรากฏขึ้น สามารถไปที่หน้าผู้ดูแลระบบของ SHOPLINE แล้วไปที่ [การตั้งค่า] > [การอนุญาตสิทธิ์การเข้าถึงและความปลอดภัย] คลิกปุ่ม แก้ไข สำหรับพนักงานและไปที่แท็บ “ศูนย์ข้อความ” ดูให้แน่ใจว่ามีการทำเครื่องหมายที่ช่อง “ส่งข้อความ” และ “ปรับเปลี่ยนการเรียกเก็บเงินในสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเอง” เมื่อคุณทำเครื่องหมายช่องเหล่านี้แล้ว คลิก อัปเดต ที่มุมด้านขวามือล่าง
E. ใช้รหัสคูปอง
คุณสามารถคลิกที่ปุ่มรหัสคูปองและกรอกรหัสคูปอง จากนั้นคลิกใช้เพื่อใช้ส่วนลดให้กับสมาชิกของคุณ
ระบบจะแสดงรายการรหัสคูปองที่สามารถใช้ได้ในปัจจุบันสำหรับลูกค้า คุณสามารถเลือกหนึ่งรหัสเพื่อใช้ส่วนลดได้
หากมีรหัสคูปองใดที่สร้างไว้ แต่ไม่แสดงขึ้นบนรายการรหัสคูปอง อาจจะมีสาเหตุดังนี้:
- รหัสคูปองถึงจำนวนจำกัดการใช้งานแล้ว
- คำสั่งซื้อไม่ตรงตามเงื่อนไขสำหรับการใช้รหัสคูปอง
- คำสั่งซื้อไม่มีสินค้าที่สามารถใช้รหัสคูปองได้
เมื่อรหัสคูปองถูกนำมาใช้ ข้อมูลรหัสคูปองจะแสดงที่ส่วนสรุปยอดคำสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 7
เลือกช่องทางการส่งลิงก์ให้ลูกค้า
หลังจากดำเนินการข้างต้นเสร็จแล้ว ให้ไปที่เมนูตัวเลือกใน "กรุณาเลือกช่องทางในการส่งลิงก์ให้กับลูกค้า" เพื่อส่งลิงก์ให้ลูกค้าทางอีเมล WhatsApp, Facebook หรือ LINE (โปรดทราบว่าเฉพาะช่องที่มีการโต้ตอบกับร้านค้าเท่านั้นที่จะปรากฏในรายการ) หรือหากคุณต้องการส่งลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อโดยคัดลอกลิงก์และแชร์ให้ลูกค้าของคุณแยกเอง คุณสามารถเลือก "ไม่มี" ได้
หลังจากตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องครบถ้วนแล้ว คลิก สร้างคำสั่งซื้อ
*โปรดทราบ:
- หากปุ่ม “สร้างคำสั่งซื้อ” ไม่ปรากฏขึ้น สามารถไปที่หน้าผู้ดูแลระบบของ SHOPLINE แล้วไปที่ [การตั้งค่า] > [การอนุญาตสิทธิ์การเข้าถึงและความปลอดภัย] คลิกปุ่ม แก้ไข สำหรับพนักงานและไปที่แท็บ “ศูนย์ข้อความ” ดูให้แน่ใจว่ามีการทำเครื่องหมายที่ช่อง “ส่งข้อความ” และ “ปรับเปลี่ยนการเรียกเก็บเงินในสร้างคำสั่งซื้อด้วยตนเอง” เมื่อคุณทำเครื่องหมายช่องเหล่านี้แล้ว คลิก อัปเดต ที่มุมด้านขวามือล่าง
- หากลูกค้าเลือกช่องทางการส่งลิงก์ยืนยันผ่านทาง WhatsApp หน้าต่างจะปรากฏขึ้นอีกหน้าพร้อมกับข้อความส่งไปหาลูกค้าของคุณ รวมถึงลิงก์เพื่อเปิดหน้าต่างข้อความใน WhatsApp *โปรดทราบ: คุณยังคงต้องเปิดหน้าต่างแชทกับลูกค้าใน WhatsApp และส่งสรุปคำสั่งซื้อด้วยตนเอง WhatsApp จะไม่ส่งสรุปคำสั่งซื้ออัตโนมัติให้
เมื่อคุณกดปุ่มสร้างลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างปรากฎขึ้นมาดังรูปด้านล่างนี้ คุณสามารถคลิก ดูคำสั่งซื้อทั้งหมด เพื่อดูคำสั่งซื้อ อีกทั้งคุณยังสามารถคัดลอกลิงก์เพื่อส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้าที่ใช้ช่องทางอื่นๆได้
หากต้องการดูรายละเอียดของคำสั่งซื้อที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงการเข้าถึงลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อ ในหน้าแผงควบคุมแอดมินของ SHOPLINE ไปที่ [โซเชี่ยลคอมเมิร์ซ] > [สั่งซื้อด้วยตนเอง] จากนั้นคลิกที่ ประวัติการสั่งซื้อ ที่มุมบนด้านขวามือ
ในประวัติการสั่งซื้อ คุณสามารถค้นหาคำสั่งซื้อด้วยวันที่ได้ หากคุณต้องการคัดลอกลิงก์คำสั่งซื้อเพื่อส่งไปให้ลูกค้าอีกครั้ง คลิกที่ คัดลองลิงก์คำสั่งซื้อ ที่ด้านข้างคำสั่งซื้อ
2. วิธีดูการยืนยันคำสั่งซื้อและติดตามคำสั่งซื้อ
1. ส่งลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อทางอีเมลและเลือกจ่ายเงินปลายทาง
หากคุณส่งลิงก์ยืนยันคำสั่งซื้อผ่านทางอีเมลและได้เลือกจ่ายเงินปลายทางเป็นตัวเลือกการชำระเงิน ลูกค้าจะได้รับข้อความดังภาพด้านล่างนี้ ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดของคำสั่งซื้อได้ รวมถึงติดตามสถานะคำสั่งซื้อ โดยคลิกที่ปุ่ม
ดูรายละเอียดการสั่งซื้อที่อยู่ในอีเมล
การคลิกที่ปุ่มดูรายละเอียดการสั่งซื้อจะพาลูกค้าไปยังหน้ายืนยันคำสั่งซื้อ นอกจากรายละเอียดคำสั่งซื้อ, ผู้รับ, และข้อมูลการชำระเงิน ลูกค้ายังสามารถดูสถานะปัจจุบันของคำสั่งซื้อที่ด้านบนของหน้านี้ได้
3. วิธีการอัปโหลดหลักฐานการชำระเงินสำหรับการโอนเงินผ่านธนาคาร
กรณีที่ลูกค้าชำระเงินผ่านการโอนเงินผ่านธนาคารจะต้องอัปโหลดหลักฐานการชำระเงินเพื่อเสร็จสิ้นคำสั่งซื้อ หากลูกค้าเลือกชำระเงินปลายทาง ลูกค้าไม่จำเป็นต้องอัปโหลดหลักฐานการชำระเงิน
วิธีอัปโหลดหลักฐานการโอนเงิน
ขั้นตอนที่ 1. เปิดหน้าคำสั่งซื้อโดยใช้ลิงก์คำสั่งซื้อที่ให้มา จากนั้นคลิก Upload Payment Proof และอัปโหลดไฟล์ที่แสดงหลักฐานการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 2. เมื่ออัปโหลดหลักฐานการชำระเงินแล้ว ที่หน้านี้จะแสดงสถานะเป็น "หลักฐานการโอนเงินถูกอัปโหลดแล้ว รอการยืนยันจากเจ้าของร้าน"
ขั้นตอนที่ 3 ร้านค้าสามารถไปที่ระบบหลังบ้าน > [คำสั่งซื้อ] เพื่อยืนยันว่าลูกค้าชำระเงินแล้ว และอัปเดตสถานคำสั่งซื้อ
แถบสถานะที่อยู่ด้านบนของหน้าต่างจะเปลี่ยนเป็น “ร้านค้ากำลังเตรียมการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ”
อ่านเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น