จากการตั้งค่า “ป้อนข้อมูลสินค้า” คุณสามารถกรอก “ข้อมูลสินค้า” และ “ประเภทสินค้า” สำหรับสินค้าคุณได้ นอกจากนี้ คุณสามารถนำสินค้าออกจากแคตตาล็อกโฆษณาและแพลตฟอร์ม การป้อนข้อมูลสินค้าช่วยให้คุณระบุผู้รับสารจากการโฆษณาได้ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณได้ผลลัพธ์จากการโฆษณาผ่าน Google / Facebook ที่ดีขึ้น
*การป้อนข้อมูลสินค้านั้น ไม่จำเป็นต้องกรอก ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องกรอกหากไม่มีข้อมูลดังกล่าว
ในบทความนี้ เราจะแนะนำหัวข้อต่างๆ ดังนี้:
1. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรหัสระบุสินค้า (UPI)
รหัสระบุสินค้านั้นกำหนดสินค้าที่คุณกำลังขายในตลาดโลก ซึ่งจะช่วยแยกแยะสินค้าที่คุณกำลังขายเหล่านั้น และช่วยจับคู่การค้นหากับสินค้าของคุณ รหัสระบุสินค้าจะถูกสร้างตามสินค้าแต่ละรายการโดยผู้ผลิต ดังนั้น หากคุณขายสินค้าชนิดเดียวกันกับผู้ขายอื่นๆ UPI ก็จะเหมือนกัน
รหัสระบุสินค้าทั่วไปรวมถึง “หมายเลขสินค้าการค้าสากล (Global Trade Item Numbers)” หรือ GTIN, "หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (Manufacturer Part Numbers)” หรือ MPN และ “แบรนด์” ทั้งนี้ ไม่ใช่สินค้าทุกรายการจะมีรหัสระบุสินค้า อย่างไรก็ตาม หากสินค้ามีรหัสระบุดังกล่าว โดยเฉพาะ GTIN จะสามารถช่วยให้โฆษณาครบสมบูรณ์มากขึ้นและลูกค้ายังสามารถหาสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หากสินค้าของคุณไม่มี UPI คุณสามารถละไว้ได้
1. หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (Manufacturer Part Numbers) หรือ MPN คืออะไร?
หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (MPN) ถูกใช้ในการระบุสินค้าหนึ่งๆ จากสินค้าหลายๆ รายการจากผู้ผลิตรายเดียวกัน ผู้ใช้อาจค้นหา MPN จาก Google Shopping ซึ่งการระบุ MPN จะช่วยให้สินค้าของคุณถูกแสดงขึ้นมาจากการค้นหาดังกล่าว
สินค้าจะไม่มี MPN หาก สินค้าดังกล่าวไม่มี MPN ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน หรือเป็นสินค้าที่ถูกสั่งทำพิเศษ (ตัวอย่างเช่น งานศิลปะ, เสื้อยืดที่สั่งทำพิเศษ, สินค้าแปลกใหม่, และสินค้าทำมือ)
2. หมายเลขสินค้าค้าสากล (Global Trade Item Number) หรือ GTIN คืออะไร?
หมายเลขสินค้าค้าสากล (GTIN) เป็นรหัสสากลตามมาตรฐาน สินค้าทุกรายการควรมี GTIN หมายเลข ID หลายๆ ประเภทถูกพิจารณาเป็น GTIN คุณสามารถอ้างถึง บทความนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ หมายเลข GTIN สามารถดูได้ที่แพ็คเกจของสินค้าหรือใต้บาร์โค้ดดังตัวอย่างด้านล่าง
2. ขั้นตอนการตั้งค่า
ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาประเภท “การป้อนข้อมูลสินค้า”
โปรดไปที่ “หน้าผู้ดูแลระบบ > สินค้าและหมวดหมู่ > สินค้า” คลิกปุ่ม “แก้ไข” จากนั้นคลิกแท็บ “ป้อนข้อมูลสินค้า”
ขั้นตอนที่ 2: ค้นหาประเภท “การป้อนข้อมูลสินค้า”
คุณสามารถใส่ข้อมูลของ “แบรนด์”, “หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (MPN)”, “บาร์โค้ด”, “สี”, “ขนาด” และ “วัสดุ” สำหรับสินค้า
*ช่องต่างๆ ต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องกรอก หากสินค้าไม่มีข้อมูลนี้ กรุณาเว้นว่างไว้
*สำหรับ “สี”, “ขนาด” และ “วัสดุ” กรุณากรอกตามภาษาการโฆษณาของคุณ
- แบรนด์: ใส่แบรนด์ของสินค้า หากไม่ได้ใส่แบรนด์ แบรนด์จะถูกตั้งค่าตามชื่อของร้านโดยอัตโนมัติ
- หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (MPN): คุณอาจอ้างอิงตามด้านบน “1. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรหัสระบุสินค้า (UPI)” เพื่อกรอกข้อมูล หากสินค้าของคุณไม่มี MPN คุณสามารถข้ามช่องดังกล่าวได้
- บาร์โค้ด: กรอกเลขบาร์โค้ดของสินค้า
หากสินค้าของคุณมีตัวเลือกสินค้า ตัวเลือกต่างๆ จะปรากฏขึ้นและคุณสามารถกรอก “หมายเลขชิ้นส่วนของผู้ผลิต (MPN)”, “บาร์โค้ด”, “สี”, “ขนาด” และ “วัสดุ” แยกตามแต่ละตัวเลือก ตัวอย่างเช่น หากสินค้าของคุณมีตัวเลือกสินค้าที่กำหนดเอง เช่น “ขนาด” ซึ่งมีตัวเลือก ได้แก่ “กลาง” และ “ใหญ่” คุณจะเห็นว่าตัวเลือกเหล่านั้นปรากฏดังแสดงด้านล่าง:
ขั้นตอนที่ 3: นำสินค้านี้ออกจากช่องทาง
คุณสามารถนำสินค้าออกจากหน้าฟีดสินค้าของช่องทางหนึ่งๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณไม่ต้องการสินค้าปรากฏในหน้าฟีดสินค้าของ Google คุณอาจทำเครื่องหมายที่หน้า “Google” เพื่อนำสินค้าออก
โปรดทราบ: การไม่รวมช่องทาง Facebook ยังไม่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 4: ประเภทสินค้า
ประเภทสินค้าช่วยให้ Google/ Facebook สามารถรับรู้เกี่ยวกับสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยคุณในการระบุกลุ่มเป้าหมายของการโฆษณาได้ถูกต้องมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ
คุณอาจใส่เพศและกลุ่มอายุของกลุ่มเป้าหมายของสินค้า นอกจากนี้ คุณอาจใส่ข้อมูล เช่น สินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าสำหรับผู้ใหญ่หรือไม่, หรือ ประเภท Google/ Facebook และอื่นๆ
เร็วๆนี้: ชั้นสินค้าระดับที่ 3 ของ Google
เพื่อพัฒนาความแม่นยำในการจัดวางโฆษณาสินค้า เราแนะนำว่าคุณเลือกลำดับสินค้าระดับสามของ Google เมื่อคุณเลือกหมวดหมู่ของสินค้าเป็นระดับสาม คลิกที่ปุ่ม [อัปเดต] ที่ปุ่มด้านขวามือเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกฎของ Google Merchant Center เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นจะต้องเป็น ชั้นสินค้าระดับที่ 3
เพื่อให้โฆษณาได้รับการตรวจสอบและอนุมัติอย่างสมบูรณ์โดย Google , โปรดใช้การตั้งค่าหมวดหมู่ด้านล่าง
- อาหาร, เครื่องดื่ม และ บุหรี่ > เครื่องดื่ม > เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ศิลปะและความบันเทิง > งานอดิเรก & ศิลปะสร้างสรรค์ > การจัดหา การผลิตไวน์และการกลั่นเองที่บ้าน
ถ้าหากเลือกหมวดหมู่สินค้าของ Google ด้วย 2 ระดับนี้เท่านั้น ระดับที่ 3 ในเมนู dropdown จะไม่ปรากฏขึ้นมา ตัวอย่างเช่น: กระเป๋า > กระเป๋าสะพายหลัง
*โปรดทราบ: ถ้าหากคุณตั้งค่าหมวดหมู่ระดับที่ 3 ของสินค้า SHOPLINE จะส่งเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสองระดับแรกไปยัง Google Merchant Center และ พันธมิตร CRM อื่นๆ ที่ร่วมงานด้วยกัน
หมายเหตุสำคัญ
1. วิธีการนำเข้า/ อัปเดตข้อมูลสินค้าทีละจำนวนมาก?
ในปัจจุบัน คุณสามารถนำเข้า “บาร์โค้ด” และอัปเดต “MPN” และ “บาร์โค้ด” ทีละจำนวนมากของสินค้าได้เท่านั้น ข้อมูลอื่นๆ คุณจะต้องตั้งค่าในหน้าการตั้งค่าสินค้าของคุณด้วยตนเอง และอย่าลืมบันทึกข้อมูลหลังจากการแก้ไข
2. หลังจากนำสินค้าออกจาก Google แล้ว ทำไมสินค้ายังอยู่ในหน้าฟีดของ Google?
แคตตาล็อก/ ฟีดสินค้าของ Google จะอัปเดตทุกๆ 6 ~12 ชั่วโมง หากคุณอัปเดตและบันทึกข้อมูลสินค้าล่าสุด กรุณารอจนกว่าฟีดจะซิงค์ข้อมูลอีกครั้ง
3. ประโยชน์ของการป้อนข้อมูลสินค้าคืออะไร?
“แท็บป้อนข้อมูลสินค้า” จะซิงค์ข้อมูลสินค้าของคุณตาม Facebook Ads และ Google Ads การเพิ่มข้อมูลฟีดสินค้าจะช่วยให้แพลตฟอร์มโฆษณาระบุตัวสินค้าและหมวดหมู่ได้ถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เราแนะนำให้คุณป้อนข้อมูลสินค้าสำหรับสินค้าแต่ละรายการตามสินค้าและนโยบายของแฟลตฟอร์มโฆษณา
ข้อคิดเห็น